น้องเต้ย : สุพศิน บูชา
(คะแนนอันดับ 1 O-NET วิชาภาษาไทย) |
พี่แอนน์: รายงานตัวหน่อยค่ะ
น้องเต้ย: ชื่อ สุพศิน บูชา ชื่อเล่นชื่อ เต้ย ครับ
พี่แอนน์: จบจากที่ไหนและสายอะไรคะ
น้องเต้ย: จบสายวิทย์-คณิตจากโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัยครับ
พี่แอนน์: อักษรย่อ/สีและคติประจำโรงเรียนคืออะไร
น้องเต้ย: อักษรย่อ คือ ภ.ว. สีประจำโรงเรียน คือ สีฟ้า-ขาว คติประจำโรงเรียน คือ อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา บัณฑิตย่อมฝึกตนครับ
พี่แอนน์: ตอนสอบคาดหวังบ้างไหม
น้องเต้ย: จริงๆ ไม่ได้คาดหวังอะไรมากครับ เพราะว่าผมติดรับตรงไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้คะแนน O-NET แต่ในเมื่อเรา
มีโอกาสสอบครั้งเดียวก็พยายามทำให้ดีที่สุด ผลจะเป็นยังไงก็พอใจครับ
พี่แอนน์: ผลที่ออกมาเราพอใจมากน้อยแค่ไหน
น้องเต้ย: พอใจมากๆ ครับ
พี่แอนน์: วิชาภาษาไทยชอบและไม่ชอบเรื่องไหน เพราะอะไร
น้องเต้ย: ชอบวรรณคดีครับ เพราะมันเป็นเรื่องเล่าที่สนุก น่าสนใจผิดกับหลักภาษาที่ค่อนข้างยุ่งยาก
พี่แอนน์: มีการเตรียมตัวสอบยังไงบ้าง
น้องเต้ย: อ่าน mini Thai book และทำข้อสอบ Ent ครับ
พี่แอนน์: ข้อสอบปีนี้เป็นอย่างไร ความยาก/ง่าย
น้องเต้ย: ระดับความยาก-ง่ายพอๆกับปีก่อนๆ ครับ
พี่แอนน์: แล้วที่เขาวิจารณ์เกี่ยวกับข้อสอบน้องเต้ยมีความคิดเห็นยังไงบ้าง
น้องเต้ย: พวกศิลปะ การงานออกไม่ตรงกับที่เรียนครับ ส่วนวิชาภาษาไทย สังคมและวิชาอื่นๆ ออกตรงกับเนื้อหาที่เรียน
แต่ภาษาอังกฤษกับสังคมออกค่อนข้างโหดไปหน่อยครับ
พี่แอนน์: มีเครียดกับข้อสอบบ้างไหม
น้องเต้ย: เครียดครับ กลัวทำออกมาไม่ดี
พี่แอนน์: เวลาเครียดคลายเครียดยังไง
น้องเต้ย: เล่นเกม อ่านการ์ตูนและอ่านนิยายครับ
พี่แอนน์: ตอนเรียนมีทำกิจกรรมบ้างไหมหรือเรียนอย่างเดียว
น้องเต้ย: เรียนเสียส่วนใหญ่ครับ กิจกรรมที่ทำก็เป็นกีฬาสีของโรงเรียน กีฬาจังหวัดครับ
พี่แอนน์: มีไปสอบแข่งขันด้านวิชาการบ้างไหมและได้อะไรกลับมาบ้างนอกจากรางวัล
น้องเต้ย: มีบ้างครับ เคยไปแข่งกล้าใหม่ ใฝ่รู้ ทำให้ผมได้รู้ว่ายังมีเรื่องมากมายที่เรายังไม่รู้ มีคำถามมากมายที่เราตอบไม่ได้
นอกจากนี้ยังได้พบเจอคนที่เก่งกว่าเรามากมาย เป็นสิ่งกระตุ้นให้ผมพยายามขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติมครับ
พี่แอนน์: สอบติดคณะ/มหาวิทยาลัยอะไร
น้องเต้ย: คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ครับ
พี่แอนน์: อยากเรียนแพทย์เพราะอะไร
น้องเต้ย: ทางบ้านมีคนป่วยเยอะครับทั้งปู่ ทั้งตา คิดว่าเราควรทำอะไรสักอย่าง เลยอยากเรียนแพทย์ครับ
พี่แอนน์: อยากเรียนเฉพาะทางด้านไหน เพราะอะไร
น้องเต้ย: ตอนนี้ยังไม่ทราบเลยครับ คงต้องลองเรียนดูก่อนว่าเราชอบด้านไหน
พี่แอนน์: มีอุดมการณ์ในการเป็นหมอยังไง
น้องเต้ย: พยายามเต็มที่เพื่อช่วยเหลือคนไข้ให้ดีที่สุดและมากที่สุดครับ
พี่แอนน์: ถ้าไม่ได้หมอคิดว่าจะเรียนต่อด้านไหน เพราะอะไร
น้องเต้ย: บัญชีครับ เพราะชอบคณิตศาสตร์และชอบการคิดวิเคราะห์
พี่แอนน์: มีเคล็ดลับในการเรียนยังไงบ้าง
น้องเต้ย: ตั้งใจเรียนครับ พยายามทำความเข้าใจกับเนื้อหา อย่าจำเพียงอย่างเดียว เวลาเครียดให้หากิจกรรมทำคลายเครียดครับ
พี่แอนน์: ได้ที่ 1 ภาษาไทยนี่เราเก่งหรือครูเก่ง
น้องเต้ย: อาศัยทั้งความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ของครูและความพยายามตั้งใจของเราควบคู่กันครับ
พี่แอนน์: ถ้าเลือกได้อยากให้การสอบเอนทรานซ์เป็นแบบไหน
น้องเต้ย: อยากให้มีการสอบเพียงครั้งเดียวครับ ส่วนตัวคิดว่าการสอบครั้งเดียวทำให้เรามีความตั้งใจในการทำข้อสอบมากกว่าการสอบหลายครั้งและประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า นอกจากนี้การจัดการสอบหลายครั้งแต่ละครั้งมาตรฐานข้อสอบจะต่างกัน ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อคนที่สอบไม่ครบทุกครั้งครับ
พี่แอนน์: จำเป็นไหมที่ต้องสอบทุกครั้งที่มีการสอบ
น้องเต้ย: ผมคิดว่าจำเป็นครับ เพราะการจัดสอบแต่ละครั้งมาตรฐานข้อสอบจะต่างกัน เช่น Pat1 ครั้งที่ 3 คะแนนเฉลี่ย
ต่างจากสองครั้งก่อนหน้านี้มาก เนื่องจากรูปแบบข้อสอบเปลี่ยนไป เพื่อคะแนนที่ดีที่สุดก็ควรสอบทุกครั้งครับ
พี่แอนน์: การเรียนดีจำเป็นต้องขลุกอยู่กับตำราตลอดไหม เพราะอะไร
น้องเต้ย: ไม่จำเป็นครับ การขลุกอยู่กับตำราทำให้เราได้รับแต่ก้อนความรู้เพียงอย่างเดียว สิ่งที่สำคัญ คือการแลกเปลี่ยนความรู้ เทคนิค แนวคิด ระหว่างเรากับคนอื่น ซึ่งจะช่วยให้เรามีความคิดหลากหลายมุม มองอะไรทะลุปรุโปร่ง ซึ่งก็มีผลต่อการเรียนเหมือนกันครับ
พี่แอนน์: มีการตั้งเป้าหมายเกี่ยวกับการเรียนยังไง
น้องเต้ย: เนื่องจากผมอยู่ในโครงการแพทย์ช้างเผือก ซึ่งสนับสนุนให้นักศึกษาในโครงการเป็นแพทย์เฉพาะทาง นักวิจัย และอาจารย์แพทย์ คิดว่าเมื่อจบจากโครงการก็คงเป็นแพทย์เฉพาะทาง และอาจเป็นแพทย์วิจัยด้วย แต่คงไม่เป็นอาจารย์แพทย์แน่นอน เพราะว่าผมเป็นคนที่ถ่ายทอดความรู้ไม่ค่อยเก่งสักเท่าไหร่ครับ
พี่แอนน์: มีใครเป็นไอดอลในเรื่องการเรียนและการดำเนินชีวิตไหม
น้องเต้ย: คงเป็นคุณพ่อ-แม่ครับ ท่านทั้งสองเป็นคนที่ขยัน มานะพยายาม ตั้งใจทำงานเพื่อทำให้ผมและพี่มีชีวิตที่ดีและมีความสุข โดยไม่ได้คำนึงถึงตนเองเลยครับ
พี่แอนน์: คุณพ่อ-คุณแม่ให้อิสระในการเรียนของน้องเต้ยมากน้อยแค่ไหน
น้องเต้ย: ให้อิสระพอสมควรครับ ถ้าอยากเรียนอะไรก็ให้เรียน แต่ต้องดูความเหมาะสมด้วย
พี่แอนน์: มีคติประจำใจไหม
น้องเต้ย: ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
พี่แอนน์: เรียนดาว้องก์สาขา/คอร์สไหน
น้องเต้ย: สาขาภูเก็ต คอร์ส Intensive
พี่แอนน์: รู้สึกยังไงที่ได้มาเรียนกับอ.ปิง
น้องเต้ย: รู้สึกประทับใจครับ อาจารย์มีเทคนิคในการจำดีๆ ทำให้เนื้อหาเยอะๆ เหลือเพียงแค่คำสั้นๆ มีเรื่องเล่าคอยสอดแทรกเนื้อหาที่น่าเบื่อ ทำให้เราไม่เครียด ไม่เบื่อจนเกินไป ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะสามารถมายืนตรงจุดนี้ได้ ต้องขอขอบคุณอาจารย์ปิงมากครับ
พี่แอนน์: ฝากหรือแนะนำน้องๆ เกี่ยวกับการเรียนและการเตรียมตัวสอบหน่อยค่ะ
น้องเต้ย: ตั้งใจเรียน ขยันอ่านหนังสือแต่อย่าเครียดกับมันจนเกินไปถึงขั้นอ่านทั้งวันทั้งคืน ควรอ่านสะสมทีละเล็กละน้อย การอ่านหนังสือที่ดีไม่ใช่ว่าอ่านๆ จำๆ เพียงอย่างเดียว เราควรทำความเข้าใจไปด้วย หากมีส่วนใดไม่เข้าใจก็ถามเพื่อนถามอาจารย์ แบ่งเวลาไว้ทำกิจกรรมคลายเครียดบ้าง ไม่ว่าจะเล่นกีฬา เล่นเกม อ่านนิยาย ที่สำคัญอย่าเอาตัวเราไปเทียบกับคนอื่นทั้งคนที่ดีกว่าและคนที่ด้อยกว่า แต่ให้เทียบกับตัวเอง สำรวจดูว่าเราทำดีพอหรือยังครับ
***การขลุกอยู่กับตำราทำให้เราได้รับแต่ก้อนความรู้เพียงอย่างเดียว***